Akira Toriyama ศิลปินผู้มีผลงานโดดเด่นอย่าง Dr. Slump และ Dragon Ball มีอิทธิพลมหาศาลต่อวงการมังงะและอนิเมะ นอกเหนือจากโลกแฟนตาซีอันกว้างใหญ่และลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว เขายังเป็นนักออกแบบตัวละครที่ยอดเยี่ยม ตัวอย่างเช่น Slime สัตว์ประหลาดตัวน้อยจาก Dragon Quest ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการออกแบบตัวละครที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกของวิดีโอเกม คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
การออกแบบสัตว์ประหลาดธรรมดา ๆ ตัวนี้ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับสินค้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และอีกหลายร้อยประเภท โดย Slime ปรากฏตัวครั้งแรกใน Dragon Quest ภาคแรก วางจำหน่ายบน Nintendo’s Famicom ในปี 1986 ก้อนสไลม์สีฟ้า (หรือสีส้ม) นี้ เป็นหนึ่งในศัตรูตัวแรก ๆ ที่ผู้เล่นจะได้พบในเกม Dragon Quest ซึ่งทุกคนก็ยอมรับว่าพวกมันน่ารักมาก ๆ แต่เดิมทีพวกมันถูกออกแบบให้เป็นตัวละครที่น่ากลัว
เบื้องหลังการออกแบบ Slime ชื่อดังจาก Dragon Quest
Yuji Horii ผู้สร้างซีรีส์ Dragon Quest เล่าว่า Slime ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Wizardry เกม RPG คลาสสิคที่มีสัตว์ประหลาดเป็นก้อนเมือกเช่นกัน
“ผมติดเกม Wizardry บน PC มาก และนั่นเป็นที่มาของแรงบันดาลใจสำหรับ Slime” Horii บอกกับ MTV ในปี 2010 “ผมวาดสเก็ตช์ตัวละครที่ดูเหมือน Slime แล้วเอาไปให้ Toriyama ปรับแต่งดีไซน์ เขาก็ออกแบบ Slime ออกมาอย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน”
เมื่อไม่นานมานี้ แฟน ๆ Dragon Quest หลายคนได้เห็นภาพ Slime ในแบบที่ Horii วาดไว้ครั้งแรก ซึ่งจากคำอธิบายของคุณ Horii เจ้า Slime เป็นก้อนวุ้นไร้รูปร่าง โดยมันจะเกาะติดใบหน้าของผู้คนแล้วรัดจนตาย (อ้างอิงตามบทสัมภาษณ์กับ IGN) “ตอนแรกที่เราคิดค้นสไลม์ มันเป็นก้อนเมือก และเราเอามันไปให้ Toriyama วาดรูปเพื่อให้มันกลายเป็นมอนสเตอร์จริง ๆ” Horii บอกกับ IGN ในบทสัมภาษณ์ปี 2007 “เราจินตนาการมันเป็นแอ่งน้ำ Slime ที่น่าขนลุก แต่พอเขาเอาสัตว์ประหลาดรูปหยดน้ำตาที่สมบูรณ์แบบกลับมา เราก็คิดว่ามันยอดเยี่ยมมาก นั่นคือพลังของ Toriyama ในการหยิบไอเดียอย่างก้อนเมือก แล้วใช้จินตนาการของเขามาสร้างตัวละครที่ยอดเยี่ยม”
ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคุณ Torii และ อ. Toriyama และก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานยืนยันว่า อ. Toriyama มีความสามารถในการออกแบบตัวละครสูงขนาดไหน ซึ่งน่าเสียดายที่อาจารย์ด่วนจากเราไปเสียก่อนครับ
Akira Toriyama Dragon Quest slime